ฟรานเชสโก้ ต็อตติ อดีตดาวเตะของโรม่า เขาเกิดในวันที่ 27 กันยายน 1976 ที่โรม ประเทศอิตาลี เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่มีอายุเพียงแค่ 4 ขวบ ในวัยเด็ก ต็อตติ มักจะชื่นชอบที่จะติดตามพ่อแม่ของเขาไปดูการแข่งขันฟุตบอล มากกว่าการเล่นสนุกกับเพื่อนๆ เขามีนักเตะที่เป็นแรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอลของเขาคือ จูเซปเป จันนีนี

ในปี 1983 เมื่อเขามีอายุได้ 7 ขวบ ต็อตติ เข้าไปเล่นให้กับทีมเยาวชนของฟอร์ตีตูโดลูดีตอร์ และเขาก็ได้เริ่มทำการฝึกฝนทักษะการเล่นฟุตบอล อยู่ประมาณ 1 ปี

ในปี 1984 ต็อตติ ก็ได้ย้ายมาเล่นให้กับทีมสมิตตรัสเตเวเรสมิต โดยเขาอยู่ที่นี่เป็นเวลา 2 ปี ก็ย้ายไปเล่นให้กับทีมเยาวชนของสโมสรโลดีจานี ในปี 1986 และด้วยการที่เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอลเป็นอย่างมาก ทำให้เขาได้รับความสนใจจากทีมฟุตบอลชื่อดังในยุโรปมากมาย โดยเฉพาะ เอซี มิลาน ทีมฟุตบอลชื่อดัง แต่ ต็อตติ ก็ได้ปฏิเสธข้อเสนอนั้นไป โดยมีเหตุผลว่า แม่ของเขาไม่ต้องการให้ลูกห่างจากเธอ และเขาก็ต้องการที่จะรอทางสโมสรโรม่า ที่เป็นทีมฟุตบอลในด้วยใจของเขา

ในปี 1989 ต็อตติ ก็สมหวังเขาได้เซ็นสัญญาและเข้าไปเป็นนักฟุตบอลในทีมเยาวชนของโรม่า ในวัยเพียง 13 ปี เขาได้ทำการฝึกฝนทักษะและมีพัฒนาการแบบก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก และฉายแววโดดเด่นเป็นอย่างมาก เขาเป็นอยู่ในทีมเยาวชนของโรม่าเพียงแค่ 3 ปี ก็ได้ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ ในปี 1992 ต็อตติ ก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการกับสโมสรโรม่า

ในปี 1992 เขาขึ้นมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ และได้รับโอกาสในการลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในเดือนมีนาคม 1993 ในเกมที่ โรม่า บุกไปเอาชนะ เบรสชา ด้วยสกอร์ 2-0 ซึ่งเป็นการเริ่มต้นในการสร้างตำนานดาวเตะดวงนี้อย่างแท้จริง โดยหลังจากในเกมนั้น ต็อตติ ก็ได้รับโอกาสในการลงสนามอย่างต่อเนื่อง และกลายมาเป็นนักเตะคนสำคัญของโรม่าได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งเขาได้รับฉายาที่แฟนบอลต่างตั้งให้ว่า เจ้าชายหมาป่า โดยสไตล์การเล่นของเขานั้นเป็นรูปแบบในการสร้างสรรค์เกม มีจุดเด่นในการเล่นบอลจังหวะเดียว และมีความแม่นยำในลูกตั้งเตะ ลูกฟรีคิก และเตะมุม ส่วนสไตล์การทำประตูของเขาจะมีความเร็วและแรงยากที่ใครจะต้านไว้ได้ ต็อตติ กลายเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งมาจาก จูเซปเป จันนีนี เขาได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้ในเรื่องฟุตบอลจากต็อตติ รวมถึงการเป็นผู้นำอีกด้วย

ต่อมา ต็อตติ ได้รับความไว้วางใจให้รับหน้าที่กัปตันทีมตั้งแต่ในตอนที่เขามีอายุเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขามีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น และสามารถเป็นกัปตันทีมได้เป็นอย่างดี

จนในฤดูกาล 2000-2001 ต็อตติ พาโรม่า ขึ้นสู่จุดสูงสุดของสโมสร ด้วยการคว้าแชมป์เซเรียอาในฤดูกาลนั้น ได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกของสโมสรหลังจากไม่ได้แชมป์มานานตั้งแต่ปี 1982 และยังเป็นแชมป์แรกในชีวิตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขาอีกด้วย นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของอิตาลีอีกด้วย

ในฤดูกาล 2001-2002 เขายังสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ในฤดูกาลนี้เขาพาทีมมาได้เพียงแค่รองแชมป์เท่านั้น เนื่องจากในช่วงนั้น ทางสโมสรยูเวนตุส เป็นทีมที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

ถัดมาในฤดูกาล 2003-2004 เขาอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มที่สุดของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขา โดยในฤดูกาลนั้นเขาทำไปถึง 20 ประตู แต่โรม่า ก็ยังเป็นได้เพียงรองแชมป์เท่านั้น

ในฤดูกาล 2004-2005 เป็นฤดูกาลที่ทางโรม่า ประสบกับปัญหาหลายด้าน และมีการเปลี่ยนผู้จัดการทีมมากถึง 4 คนในฤดูกาลเดียว และฟอร์มการเล่นของเขาก็ตกต่ำลงเช่นกัน แต่ก็ยังสามารถยิงประตูได้ถึง 12 ประตู

ฤดูกาล 2005-2006 เขาโดนปรับเปลี่ยนบทบาทในสนาม โดย ลูเชียโน่ สปัลเล็ตติ ผู้จัดการทีมคนใหม่ ซึ่งปรับให้เขาเล่นในตำแหน่งกองหน้าที่คอยสร้างสรรค์เกม และเขาก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี ด้วยการทำไป 15 ประตู ในการลงสนาม 24 เกม ซึ่งในตอนนั้นเรียกได้ว่า เขากำลังกลับมาโชว์ฟอร์มอันโดดเด่นได้อีกครั้ง แต่ก็ต้องประสบกับความโชคร้ายเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บรุนแรง ทำให้ต้องพักรักษาตัวและต้องทำการผ่าตัดถึง 2 ครั้ง

ฤดูกาล 2006-2007 เขากลับมาพร้อมลงสนามได้อีกครั้ง และสามารถเรียกฟอร์มยอดเยี่ยมของตัวเองมาได้ และสามารถพาทีมขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ ของตารางคะแนนได้ นอกจากนี้ยังพาทีมคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย และเขาก็เป็นดาวซัลโวสูงสุดของเซเรียอา ด้วยการทำประตูจำนวน 26 ประตูอีกด้วย

ฤดูกาล 2007-2008 ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเดิม สามารถทำได้ 18 ประตูจากการลงสนาม 35 นัด

ฤดูกาล 2010-2011 โรม่า ประสบปัญหาผลงานของทีมที่ไม่ดีนัก และในฤดูกาลนี้ ต็อตติ ไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงสนามเหมือนเช่นเคย ทำให้เขาได้ลงสนามเพียงแค่ 21 นัด และทำได้เพียง 3 ประตูเท่านั้น แต่การเข้ามาของ วินเชนโซ่ มอลเตลล่า ผู้จัดการทีมคนใหม่ ทำให้ ต็อตติ กลับมาคืนฟอร์มได้อีกครั้ง และจบฤดูกาลด้วยการยิงไป 15 ประตู

ฤดูกาล 2011-2012 เขายังคงเป็นกำลังสำคัญของโรม่า แต่ก็ไม่สามารถสร้างผลงานได้ดีเช่นเดิม ทำให้ฤดูกาลนั้นเขาทำให้เพียงแค่ 8 ประตูจากการลงสนาม 31 นัด

ในฤดูกาล 2012-2013 เขายังคงลงเล่นให้กับทีมอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยวัยของเขาที่เข้าสู่ 36 ปี ทำให้ฟอร์มการเล่นของเขาไม่ร้อนแรงเหมือนเก่า เขาลงสนามไป 34 นัด ทำได้ 12 ประตู

หลังจากนั้นเขาก็ลงสนามให้กับโรม่าอยู่เรื่อยมา จนในปี 2017 ต็อตติ ได้ประกาศแขวนสตั๊ดในวัย 40 ปี โดยเกมสุดท้ายที่เขาลงสนามเป็นเกมที่โรมา เอาชนะ เจนัว 3-2 โดยเขาลงเป็นตัวสำรองแทนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดยตลอดอาชีพการค้าแข้งของเขา เขาอยู่รับใช้สโมสรโรม่ามาตลอดจนถึงวันสุดท้าย โดยเขาลงสนามไปทั้งหมด 786 นัด และทำไป 307 ประตู

ส่วนผลงานในทีมชาติ เขาเริ่มเล่นให้กับทีมชาติอิตาลีตั้งแต่ปี 1998 โดยลงสนามไปทั้งสิ้น 58 นัด และทำให้ 9 ประตู ต็อตติ อำลาทีมชาติไปในปี 2006